สาว ๆ แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสาวผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม รวมไปถึงความแข็งแรงของผิวหน้า และการไวต่อสารต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปอีกด้วย ถือว่าเป็นโชคร้ายของสาว ๆ ที่ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย เพราะนอกจากจะหาสกินแคร์ในการบำรุงผิวค่อนข้างลำบากแล้ว ยังจะต้องประสบปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ หรือผิวขาดน้ำ และอีกมากมาย
แต่ไม่ได้หมายความว่าสาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่าย แล้วจะแพ้ตลอดไปนะคะ เราสามารถบำรุงผิวหน้าของเราให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ ผ่านการใช้สกินแคร์ที่จะเข้าไปช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิวหน้าของเรา รวมถึงสกินแคร์ที่จะเข้ามาช่วยดูแลปัญหาผิว
และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว วันนี้เราเลยจะพาสาว ๆ มารู้จักกับโทนเนอร์ที่จะช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงให้กับผิวหน้า ขจัดแบคทีเรียตกค้าง และช่วยรักษาปัญหาผิวของสาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่าย กลับมาขาวกระจ่างใสอีกครั้งหนึ่งค่ะ จะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น เรามาดูกันเลย!
#5 โทนเนอร์สำหรับสาวผิวแพ้ง่าย
ใช้ดีมากๆ เวลาช่วงสิวเห่อ ผิวอ่อนแอจะมาใช้ตัวนี้ตลอดเลย ใช้เดี่ยวๆไม่แสบผิวแล้วก็ให้ความชุ่มชื่นดีมากๆ อ่อนโยนสุดๆแต่ช่วงผิวแข็งแรงแล้วก็ไปใช้ตัวอื่น ฮี่ๆ ช่วงหน้าแห้งลอกเอามามาร์กหน้าก็ดีมาก เหมาะกับคนเป็นสิวที่ทายารักษาจนแห้งลอก แสบแม้กระทั่งแค่ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า แต่ตัวนี้โอเค เพราะอ่อนโยนจริงๆนะเออ รีวิวจาก vanilla : beebaka คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
ไม่มีแอลกอฮอลล์ ไม่มีน้ำหอม รู้สึกหน้าสดชื่นขึ้นหลังใช้ รีวิวจาก pantip : weena_pop คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
กลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วไม่ระคายเคือง รูขุมขนกระชับลงนิดหน่อย หลังเช็ดแล้วหน้านุ่มเบาสบายมากๆ ชอบตรงปราศจากแอลกอฮอล์ ทำให้หน้าไม่แห้ง โดยรวมคิดว่าน่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ ยิ่งคนเป็นสิว ใช้แล้วยุบลงนิดหน่อยค่ะ รีวิวจาก cosmenet : Lukpad Patty คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
ตอนแรกใช้แล้วแสบมากเลยค่ะ นึกว่าแพ้ แต่จริงๆหน้าเราอ่อนแอ ช่วงนั้นไม่เคยทากันแดดออกนอกบ้านเลย พอค่อยๆปรับ หาสกินแคร์ที่ทำให้หน้าแข็งแร็ง แล้วกลับมาใช้ Kiehl’s ก็ไม่แสบแล้วค่ะ เช็ดหน้าสะอาดมาก รู้สึกว่าสิวผดและสิวอุดตันลดลง หน้านุ่มขึ้นด้วยค่ะ แต่เรื่องรอยดำรอยแดงหรือหน้าขาวใสเราไม่เห็นผลค่ะ ชอบกลิ่นด้วยค่ะ หอมเก๊กฮวยมากๆเลย รีวิวจาก vanilla : Hamp คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
สิวหาย ตัวนี้ใช้แล้วรูขุมขนเล็กลง รู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นและสะอาดกว่าเดิม และยังช่วยลดสิวผดได้ดี แต่มีข้อเสียตรงที่มีกลิ่นแรง ฉุนไปหน่อย ถ้าใครรับกลิ่นได้ก็ใช้ได้คะ เพราะขนาดใหญ่กว่ายี่ห้ออื่น และราคาย่อมเยาว์กว่าคะ รีวิวจาก sephora : อังคณา คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
เพิ่งลองซื้อใช้ ใช้หลังล้างหน้า รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนค่ะ กลิ่นหอมอ่อน ไม่ฉุนและไม่รู้สึกว่ามีแอลกอฮอล์ค่ะ แต่หากเช็คใกล้ดวงตาจะรู้สึกแสบได้ค่ะ โดยรวมชอบค่ะ รีวิวจาก cosmenet : Saranya คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
ก่อนและหลังสิวที่เคยอุดตัน สิวผดจากอาการแพ้ และสิวหัวหนองก็หาย ผิวเรียบเนียนขึ้นและรูขุมขนกระชับขึ้น ส่วนรอยดำจากสิวบวกกับทำเลเซอร์ IPL มา 2 ครั้งก็จางไปมากเช่นกัน แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ช่วยปรับ Balance ผิวได้ดี ม่อนไม่แพ้โทนเนอร์ตัวนี้เลย สิวที่เป็นอยู่ก็เห็นผลอย่างชัดเจนเลย เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องผิวแข็งแรงขึ้นนะ ไม่แพ้ง่าย แถมป้องกันไม่ให้สิวกลับมาบุกอีก ม่อนไปเลเซอร์มาด้วย เมื่อใช้โทนเนอร์ตัวนี้ที่มีส่วนผสมช่วยรักษารอยดำรอยแดงจากสิวก็ยิ่งลดลงอย่างเห็นได้ชัด รีวิวจาก pantip : Diva or Demon คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
สิวลดน้อยลงเมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้สึกว่ารุนแรงกับผิวจนเกินไป เอาเป็นว่าใช้ได้แบบรู้สึกสบายใจค่ะ 55+ ผลลัพธ์ก็ถือว่าคุ้มราคาเลยนะ ใครที่กำลังมองหาโทนเนอร์รักษาสิวที่อ่อนโยน ไม่แสบหน้า ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ ลองใช้โทนเนอร์ตัวนี้ดูเนอะ รีวิวจาก cosmenet : JnJenny คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
เนื้อผลิตภัณฑ์มีความข้นอยู่ เพราะเป็นสูตรชุ่มชื้น กลิ่นหอมของดอกกุหลาบเนี่ยชนะมาก เลิศ ชอบกลิ่นที่สุด ผ่อนคลายสบายผิวมากค่ะ เอามามาส์กหน้า หรือเช็ดโทนเนอร์ก็ได้ดีมาก หลังใช้เสร็จผิวหย้ารู้สึกชุ่มชื้นขึ้น รีวิวจาก vanilla : p_peo คลิกอ่านรีวิวโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายฉบับเต็มที่นี่
ซื้อโทนเนอร์ผิวแพ้ง่ายตัวไหนดี
ถึงแม้โทนเนอร์ 5 ตัวที่พามาให้รู้จักจะเป็นโทนเนอร์ที่เหมาะกับสาวผิวอ่อนแอแพ้ง่ายแล้ว แต่สำหรับสาว ๆ ผิวแพ้ง่าย อย่างไรก็จำเป็นจะต้องมีการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งาน ผ่านการทดสอบบนท้องแขน หรือหลังหูของตัวเอง
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการระคายเคือง หรืออาการแพ้เกิดขึ้น ถึงจะเริ่มเลือกใช้ในการบำรุงผิวหน้าของเรานะคะ มาดูแลผิวหน้าของเราให้กลับมาขาวกระจ่างใส แข็งแรง ดูมีสุขภาพดีกันเถอะค่ะ