สวัสดีค่ะสาว ๆ วันนี้เราจะพามารู้จักกับสิวที่หลาย ๆ คนไม่รู้ตัวว่าเป็นสิว!! เพราะว่าเจ้าสิวตัวนี้มีลักษณะต่างจากสิวทั่ว ๆ ไป คือจะเป็นตุ่ม หรือเม็ดเล็ก ๆ บนใบหน้าที่ไม่มีอาการคัน อักเสบ หรือเป็นหนอง บางครั้งเผลอไปเกา ก็ไม่มีอาการหัวสิวหลุด หรือลองบีบแล้วก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีหัวสิวออกมา แถมยังเป็นตุ่มเหมือนเดิมอีกด้วย จนไม่รู้จะรักษายังไง ให้เจ้าสิวที่เป็นตุ่มบนใบหน้าตุ่มนี้ออกไปสักที
ฟังดูเจ้าสิวประเภทนี้จะรักษายากไม่เบาเลยใช่ไหมคะ จริง ๆ เจ้าสิวตัวนี้มีชื่อเรียกว่าสิวหิน สาว ๆ บางคนอาจจะเคยเป็น และเคยรักษามาบ้าง แต่สำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่เคย เราจะเล่าให้ฟังค่ะ ว่าเจ้าสิวข้าวสาร หรือสิวหินเนี่ย เกิดขึ้นจากอะไร และมีวิธีการดูแลรักษายังไง ทำไมมันถึงไม่สามารถบีบออกเหมือนสิวทั่ว ๆ ไปได้ มาดูกันค่ะ!
สิวหินเกิดขึ้นจากอะไรนะ
สิวหินหรือสิวข้าวสาร สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ และมีความแข็งมากกว่าสิวทั่วไป จนมีลักษณะคล้ายกับข้าวสาร ทำให้เจ้าสิวหินมีอีกชื่อหนึ่งคือ สิวข้าวสาร นั่นเอง เจ้าสิวหินเนี่ยมักจะเกิดอยู่บริเวณถุงใต้ตา แก้ม หรือจมูก ทั้งสาเหตุการเกิดสิวหินมักจะเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียและเซลล์ผิวเก่าที่ไม่ผลัดออกจากชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการทับถมและสะสมกับไขมันในชั้นผิวหนัง หรือในบางครั้งก็อาจจะเกิดจากการอุดตันของไขมันในรูขุมขนทั่วไป
หรือในบางครั้งสิวหินก็ยังเกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังของใบหน้ามีการผลิตต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังมากเกินไปจนทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนใต้ชั้นผิวหนังที่ลึกมาก ๆ จนทำให้ไม่สามารถบีบหรือกดสิวดังกล่าวออกได้ การตากแดดบ่อย ๆ หรือการออกกำลังกายจนทำให้เหงื่อออกจำนวนมากก็อาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน
นอกจากนี้การเกิดสิวหินอาจจะเกิดได้จากกรรมพันธุ์ในครอบครัว เช่นหากมีใครในครอบครัวหรือเครือญาติที่มีสิวหินบนใบหน้าค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะทำให้เชื่อมโยงได้ว่ามีลักษณะกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนที่คล้ายคลึงกันทำให้มีโอกาสเกิดสิวหินได้เช่นกัน รวมไปถึงผู้ป่วยโรคต่าง ๆ เช่นโรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคอลลาเจนในร่างกายก็อาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวหินตัวนี้ได้เช่นกัน
การดูแลรักษาสิวหิน
- ดูแลและรักษาความสะอาดผิวหน้าอยู่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันในชั้นผิวหนังด้านในจนเกิดเป็นสิวหินที่ยากต่อการรักษา สาว ๆ ควรจะรักษาความสะอาดบนใบหน้า ล้างเครื่องสำอาง และทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้รอบตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุแห่งการเกิดสิว
- การกดสิวด้วยเข็ม เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างเจ็บหากคนที่ทำไม่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากสิวหินมักจะเกิดบริเวณถุงใต้ตา หรือบริเวณรอบดวงตา ทำให้ยากแก่การเอาเข็มไปกดและนำหัวสิวออกมา หากสาว ๆ ทำไม่เป็น หรือไม่ถนัด แนะนำให้ทางคลินิกเสริมความงามเป็นคนกดให้จะดีกว่าค่ะ
- การเลเซอร์ออก เหมือนกับสิวทั่ว ๆ ไปที่ใช้เลเซอร์ของทางคลินิกโรคผิวหนัง หรือคลินิกความงามในการเลเซอร์ยิงเข้าไปในชั้นผิวหนังให้เกิดการละลายของหัวสิวและตกสะเก็ดออกมา ทั้งนี้การเลเซอร์จะต้องดูบริเวณผิวหนังที่ปลอดภัย ไม่ควรใกล้ดวงตาจนเกินไป โดยการเลเซอร์นี้มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันในแต่ละคลินิก ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ อุปกรณ์ที่ใช้ และรูปแบบการรักษา
สรุป สิวหินรักษายากไหม
สิวหินนั้นรักษาไม่ยากหากเรารู้วิธีนะคะ ซึ่งเจ้าสิวหินนี้จริง ๆ แล้วสามารถละลายหายไปเองได้ภายใน 10-15 ปี แต่อย่างไรก็ตามไม่มีสาว ๆ คนไหนอยากมีสิวบนใบหน้านานขนาดนั้นใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นในเบื้องต้นเราควรดูแลรักษาความสะอาดบนผิวหน้าของเราให้ดี เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวหินบนใบหน้า หรือถ้าหากเกิดสิวหินแล้วก็ควรรักษาให้ถูกวิธี เพื่อรักษาใบหน้าของเราและป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวหรือร่องรอยการกดสิวต่าง ๆ ดูแลผิวหน้าของเราให้เนียนใส สม่ำเสมอ ไปด้วยกันนะคะ